springgreenのブログ

タイ料理のレシピ รวมสูตรอาหารไทย

เมนูหมู ปังๆ ทำขาย สร้างรายได้เสริม

ในช่วง Work from Home หยุดอยู่บ้านแบบนี้ การที่จะออกไปหาอาหารทานข้างนอกค่อนข้างลำบาก อยากหาเมนูเด็ดๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังทั้งที ก็คงจะหนีไม่พ้น เนื้อหมู อร่อยถูกปากทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะนำเนื้อหมูมาทำเมนูอะไร ก็อร่อยไปหมดทุกอย่าง วันนี้แอดมิน อยากจัดหนักก็มาทำ เมนูหมูๆ สักมื้อ ซึ่งบางคนมีความเชื่อว่า เมนูหมูเหมือนเป็นเคล็ดลับที่กินแล้วจะทำให้หน้าที่การงานจะได้ราบรื่น วันหยุดแบบนี้จะทำเมนูหมูง่าย ๆ

น้ำพริกมะเขือเทศกุ้งหมูสับ

สำหรับสาว ๆ ที่อยากกินเมนูหมูสับแคลอรีต่ำ ขอแนะนำน้ำพริกมะเขือเทศกุ้งหมูสับเลยจ้า สูตรนี้ใส่ทั้งเนื้อหมูและเนื้อกุ้ง ที่ขาดไม่ได้เลยคือ มะเขือเทศ เพิ่มความหอมจากสมุนไพรลงไป เสิร์ฟกับผักสดเยอะ ๆ ทำกินมื้อเย็นให้ฟินไปเลยนะคะสาว ๆ ขา


ส่วนผสม น้ำพริกแกง


• พริกขี้หนูแห้ง (แช่น้ำพอนุ่ม) 10 เม็ด
• ตะไคร้ (ซอยละเอียด) 2 ต้น
• หอมแดง 3 หัว
• กระเทียม 5 กลีบ
• กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่นหยาบ 1/2 ช้อนชา
• เนื้อหมูสันนอกสับ 100 กรัม
• มะเขือเทศราชินี


ส่วนผสม น้ำพริกมะเขือเทศกุ้งหมูสับ (สำหรับ 3 ที่)


• น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง
• กระเทียม (สับละเอียด) 5-6 กลีบ
• มะเขือเทศราชินี (หั่นครึ่งนำเม็ดออก) 150 กรัม
• เนื้อกุ้งสด (สับหยาบ) 50 กรัม
• น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 1 ช้อนชา
• ต้นหอมและผักชี (ซอยรวมกัน) 2 ช้อนโต๊ะ
• ผักสดทานเคียง เช่น แตงกวา, ถั่วฝักยาว, ผักกาดขาว, กะหล่ำปลี และมะเขือเปราะ


วิธีทำน้ำพริกมะเขือเทศกุ้งหมูสับ


1. ทำน้ำพริกแกง โดยโขลกพริกขี้หนู ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม กะปิ และเกลือป่นให้ละเอียด ใส่เนื้อหมูและมะเขือเทศราชินี โขลกพอเข้ากัน พักไว้


2. นำกระทะใส่น้ำมันพืชตั้งไฟพอร้อน ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอม ใส่ส่วนผสมหมูสับลงไปผัด พอหมูเริ่มสุกเติมเนื้อกุ้งลงไปผัดพอสุก เติมน้ำเปล่า รอให้เดือด


3. ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำตาลทราย และน้ำปลา ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ใส่ต้นหอมกับผักชี ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักสดตามชอบ


• ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำพริกมะเขือเทศกุ้งหมูสับ เมนูน้ำพริกแคลอรีต่ำ กินได้ไม่เบื่อ


Cr.สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน


ซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็ม


เมื่อเช้าเดินผ่านร้านซาลาเปากะว่าจะซื้อซาลาเปาไส้หมูสับมากินสักลูก แต่แม่ค้าบอกว่าหมดแล้วจ้า เชอะ ! ทำกินเองก็ได้ ขอยกตัวอย่างซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็มสูตรนี้ปั้นซาลาเปาเป็นรูปหมู ใส่ไข่เค็มลงไปด้วยนะเธอจ๋า อร่อยล้ำที่สุดเลยนาทีนี้


ส่วนผสม แป้งซาลาเปาส่วนที่ 1


• แป้งซาลาเปา (ตรากิเลนเหลือง) 350 กรัม **ถ้าใช้แป้งเค้กหรือแป้งชนิดอื่น ๆ ซาลาเปาอาจจะมีสีออกนวล ๆ ไม่ค่อยขาวนะคะ**
• ยีสต์ชนิดจืด 10 กรัม (ซองสีแดง) **สามารถใช้ยีสต์หวานได้นะคะ ถ้าหาซื้อชนิดจืดไม่ได้ แต่จะใช้เวลาหมักแป้งส่วนนี้นานขึ้นเป็นประมาณ 1.30 ชั่วโมง เพราะในส่วนผสมนี้ไม่มีน้ำตาลเป็นตัวช่วยให้ยีสต์ทำงานค่ะ**
• น้ำสะอาด (อุณหภูมิห้อง) 230 กรัม


ส่วนผสม แป้งซาลาเปาส่วนที่ 2


• แป้งซาลาเปา (กิเลนเหลือง) 150 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 125 กรัม
• น้ำสะอาด (อุณหภูมิห้อง) 150 กรัม
• เนยขาว 50 กรัม
• น้ำมันพืชเล็กน้อย (ใส่ถ้วยเล็ก ๆ เอาไว้ทามือ เวลาที่นวดแป้งแล้วติดมือ)
• สีผสมอาหารสีชมพู


วิธีทำแป้งส่วนที่ 1


1. ร่อนแป้งซาลาเปา ใส่ยีสต์ลงไปแล้วใช้พายคนให้เข้ากัน


2. ทำแป้งเป็นหลุมตรงกลาง แบ่งน้ำเปล่าใส่ทีละครึ่ง ใช้พายไม้คนให้ส่วนผสมเข้ากันแบบหยาบ ๆ แล้วใช้มือนวดจนเป็นก้อนเดียวกัน (ในส่วนนี้แป้งจะไม่เนียนมากนักค่ะ) พักไว้ เอาผ้าคลุมลมกันลมประมาณ 50 นาที หรือจนขึ้นเป็นสองเท่า ถ้าใช้ยีสต์จืดต้องเพิ่มเวลาการหมักแป้งขึ้นอีก


วิธีทำแป้งส่วนที่ 2


1. ร่อนแป้งซาลาเปากับผงฟูเข้าด้วยกันใส่อ่างผสมขนาดกลาง โรยเกลือป่น ใส่น้ำตาลทรายลงไป แล้วใช้พายยางคนส่วนผสมให้เข้ากัน


2. ทำแป้งเป็นหลุมตรงกลาง ค่อย ๆ ใส่น้ำเปล่าลงไปทีละนิด แล้วใช้พายไม้คนให้แป้งดูดซับน้ำ คอยดูอย่าให้แป้งแฉะเกินไป แบ่งแป้งส่วนที่ 1 ผสมลงไปนวดให้เข้ากัน


3. ทาน้ำมันพืชบาง ๆ ที่มือ โรยแป้งนวลบนโต๊ะ เอาแป้งในอ่างผสมลงแผ่ที่โต๊ะ ค่อย ๆ ผสมเนยขาวทีละครึ่งนวดให้เข้ากัน พอเนยขาวหมด แป้งยังไม่เนียน


4. จัดการแบ่งแป้งออกมาเล็กน้อยเพื่อเอาไว้ผสมสีชมพู (เพราะถ้านวดจนเนียนแล้วจะผสมสียากค่ะ) นวดแป้งสีขาวใช้เวลาประมาณ 20 นาที จนเนียน รวบเป็นก้อนกลมในอ่างที่ทาน้ำมันบาง ๆ แล้วจึงผสมสีชมพูในแป้งที่แบ่งไว้ พักแป้งทั้งสองสีไว้อีก 20 นาที จะทำให้แบ่งแป้งง่ายขึ้น


5. ตัดแบ่งแป้งเป็น 55 กรัม คลึงแป้งเป็นก้อนกลมเรียงตามลำดับแป้งที่แบ่งไว้ พักแป้งประมาณ 10 นาที เอาผ้าคลุมอย่าให้โดนลม พอครบเวลาแผ่แป้งออกให้ตรงด้านริมบาง ตรงกลางหนา แล้ววางไส้ลงไป ตามด้วยไข่เค็ม


6. ห่อแป้งให้มิดและคว่ำลงไปบนกระดาษ วางจมูกหมูและหูลงไป พักแป้งต่ออีก 35 นาที


7. ระหว่างนั้นเตรียมชุดนึ่งใส่น้ำเปล่าประมาณ 3/4 ส่วน ใช้ไฟแรงรอจนน้ำเดือดพล่าน เอาซาลาเปาลงนึ่งประมาณ 12 นาที เมื่อครบเวลาเบาไฟให้อ่อนสุดประมาณ 1 นาที เปิดฝานึ่ง ถ้าทำเช่นนี้ซาลาเปาจะไม่เสียรูปทรงค่ะ


ส่วนผสม ไส้หมูสับ ส่วนที่ 1


• เนื้อหมูบดติดมัน ประมาณ 300 กรัม
• มันแกว (หั่นเต๋าเล็ก ๆ) 150 กรัม
• น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• หอมหัวใหญ่ (ขนาดกลางหั่นเต๋าเล็ก) 1/2 ลูก
• น้ำมันงา 1 ช้อนชา
• ผงกระเทียม 1 ช้อนชา
• แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ


ส่วนผสม ไส้หมูสับ ส่วนที่ 2


• เห็ดหอม (แช่น้ำจนนิ่ม หั่นชิ้นเล็ก)
• ต้นหอม (ซอยบาง ๆ) 2 ต้น


วิธีทำไส้หมูสับ


1. นวดผสมไส้หมูสับส่วนที่ 1 ให้เข้ากันจนเหนียว


2. ต่อมาจึงผสมส่วนที่ 2 ลงไปคลุกเคล้าพอเข้ากัน แช่เย็นไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง


3. นำไปห่อกับแป้งซาลาเปา


• ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซาลาเปาหมูสับไข่เค็ม เมนูติ่มซำเหมือนเดิม เพิ่มเติมความมุ้งมิ้ง


Cr. สูตรจากคุณกระต่ายดงที่หลงเดือน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ข้าวต้มหมูสับ

อาหารมื้อเช้าเมนูหมูสับที่อยากแนะนำคือ ข้าวต้มหมูสับ สูตรนี้ใส่ข่าอ่อนเพิ่มกลิ่นหอมด้วยนะคะ ถ้าเพื่อน ๆ จะกินหมูสับเป็นก้อนก็จับปั้นเป็นก้อนพอดีคำได้เลยค่ะ ตบท้ายด้วยกระเทียมเจียวเพิ่มกลิ่นหอม อูย… หอมไกลถึงหน้าปากซอยเลย


ส่วนผสม ข้าวต้มหมูสับ


• น้ำเปล่า (สำหรับทำน้ำซุป)
• ข่าอ่อน (หั่นเป็นแว่น) 2 ชิ้น
• เนื้อหมูสับปรุงรส 200 กรัม
• ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
• ข้าวหอมมะลิหุงสุก 300 กรัม
• น้ำเปล่า (สำหรับต้ม)
• กระเทียมเจียว ต้นหอมซอย และตังฉ่าย (สำหรับโรยหน้า)


วิธีทำข้าวต้มหมูสับ


1. ต้มน้ำเปล่ากับข่าอ่อนจนเดือด ใส่หมูสับปั้นเป็นก้อนลงต้มจนสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น ลดไฟลง ต้มจนน้ำซุปจนเดือด เตรียมไว้


2. ตั้งน้ำเปล่าในหม้ออีกใบจนเดือด ใส่ข้าวหอมมะลิลงต้มในน้ำเดือดจนนุ่ม ตักข้าวใส่ถ้วย ตามด้วยน้ำซุป และหมูสับ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ต้นหอมซอย และตังฉ่าย พร้อมเสิร์ฟ


Cr. cooking.kapook.com


ถ้าคุณต้องทำเมนูเนื้อหมูบดตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไป เราแนะนำให้ใช้ เครื่องบดหมู ดีกว่า ราคาเดี๋ยวนี้ไม่แพง เช่นเครื่องบดหมู SGE ราคาเริ่มต้นแค่ 400 บาทเท่านั้นเอง และไม่ใช่แค่บดหมูเท่านั้น ยังสามารถนำมาเป็นเครื่องบดอาหาร บดอาหารอื่นๆ เช่น บดเนื้อสัตว์ ปั่นเครื่องแกง ปั่นพริกไทย เมล็ดธัญพืช พริกสด และอีกมากมาย โดยเครื่องบดหมู หรือเครื่องบดอาหารสามารถที่จะใช้งานได้หนัก ทนทาน และ ปั่นละเอียดกว่าเครื่องปั่นทั่วๆ ไป