springgreenのブログ

タイ料理のレシピ รวมสูตรอาหารไทย

แจก 10 เมนูเนื้อ สำหรับคนพิเศษ ละลายในปาก ไม่มีวันลืม


ความพิเศษของเนื้อ อยู่ที่การมีชั้นไขมันแทรก ยิ่งมีไขมันแทรกเยอะเนื้อวัวนั้นก็ยิ่งนุ่ม เด้งสู้ลิ้น อย่างมาก ใครๆ ที่เป็นสายเนื้ออาจจะหาร้านที่ขาย เมนูเนื้อ ได้ค่อนข้างยากนิดหนึ่ง เพราะส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่ขายอาหารทั่วไป ไม่ได้เป็นร้านที่ขายเมนูเนื้อโดยเฉพาะ อาหารหรือเมนูอาจจะไม่ค่อยถูกใจสาวกคนรักเนื้อเท่าไหร่นัก จริงๆแล้วเมนูเนื้อวัวสามารถนำมารังสรรค์เมนูได้ง่ายๆ ได้ที่บ้าน ไม่ต้องไปทานไกลถึงร้านหรูๆ วันนี้แอดมินจะพาไปดูสูตรอาหารที่มีเนื้อเป็นตัวชูโรง “เมนูเนื้อวัว” 🍖  เนื้อนุ่มละลายในปาก ทำได้มากกว่าที่คุณคิดแน่นอนไปดูกันเลย

เมนูเนื้อ ผัดกะเพราเนื้อใส่หัวปลี

ผัดกะเพราเนื้อใส่หัวปลี ใช้เนื้อโคขุนโพนยางคำส่วนริบอายที่หั่นขายเป็นแผ่นบางๆ เป็นเนื้อที่นุ่ม ใช้ทำผัดกะเพราหรือจิ้มจุ่มได้ดี

ส่วนผสม

  • เนื้อสไลซ์ประมาณ  200 กรัม
  • หัวปลีหัวย่อมๆ 1 หัว
  • กระเทียมสับหยาบ 3-4 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสวนสับหรือตำหยาบๆ กับกระเทียม 10 เม็ด
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่าประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายเล็กน้อย
  • น้ำปลาเล็กน้อย
  • ใบกะเพราพอสมควร
  • น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ

  1. ปอกหัวปลีให้เหลือเฉพาะส่วนสีขาว แช่น้ำผสมน้ำส้มสายชูให้หมดยางเกรอะ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ โฉบในกระทะที่มีน้ำมันพอติดก้นกระทะ ไฟแรงๆ โฉบพอแค่สลด
  2. เอาน้ำมันหมูใส่กระทะ พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกตำกับกระเทียม จะสับหรือตำหยาบๆ ก็ได้ ผัดจนคนผัดจามหรือพอเริ่มเหลืองก็ใช้ได้ ปรุงรสและชิมให้อร่อย ใส่น้ำลงไปนิดหน่อย พอชิมรสได้ที่แล้วก็ใส่เนื้อลงไปผัด โหมไฟแรงๆ ผัดเร็วๆ เนื้อสุกแค่ภายนอกใส่หัวปลีที่โฉบน้ำมันไว้ ใส่ใบกะเพราที่ล้างน้ำแล้วยังมีความชื้นติดใบ ความชื้นนี้จะช่วยให้กะเพราสุกและเขียวสวย ผัดพอกะเพราสลด ตักใส่จาน ตกแต่งรอบจานด้วยใบกะเพรา

2. แกงเขียวหวานเนื้อพริกขี้หนู  

แกงเขียวหวานเนื้อพริกขี้หนูเนื้อวัวส่วนน่องลายเคี่ยวกับกะทิจนนุ่มแล้วแกงกับน้ำพริกแกงเขียวหวานที่ตำเอง หอมกรุ่นกลิ่นเครื่องแกงเมนูอร่อยคู่สำรับครัวไทย

ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)
  • เนื้อวัวส่วนน่องลาย 400 กรัม
  • หางกะทิสำหรับเคี่ยวเนื้อ 6 ถ้วย     
  • หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
  • มะเขือพวง 1/2 ถ้วย
  • ใบมะกรูด 4 ใบ
  • ใบโหระพา 1/4 ถ้วย
  • น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลมะพร้าว 1 1/2 ช้อนชา
  • พริกขี้หนูสวน 1 ช้อนโต๊ะและใบโหระพาสำหรับตกแต่ง
  • ส่วนผสมพริกแกง
  • พริกชี้ฟ้าเขียว กรีดเมล็ดออก 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสวนเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้ 2 1/2ช้อนโต๊ะ
  • ข่า 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมไทย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
  • รากผักชี 2 ช้อนชา
  • กะปิ 1 1/2ช้อนชา
  • เกลือ 1/4ช้อนชา
  • เมล็ดพริกไทยขาวคั่ว 3/4 ช้อนชา
  • เมล็ดยี่หร่าคั่ว 1/2ช้อนชา
  • ลูกผักชีคั่ว 3/4 ช้อนชา

วิธีทำ
  • ต้มเนื้อวัวในหางกะทิจนนุ่ม พักไว้ให้เย็น หั่นเป็นชิ้นขนาดตามชอบ พักไว้
  • ทำพริกแกงโดยคั่วและตำเครื่องเทศ (พริกไทยขาว ยี่หร่า ลูกผักชี แยกคั่ว) ให้ละเอียดตักขึ้น ตำส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดให้ละเอียด ใส่เครื่องเทศที่ตำไว้แล้วลงไป ตำให้เข้ากัน
  • ต้มหัวกะทิให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกงลงผัดกับหัวกะทิจนสุกมีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาล
  • ใส่หางกะทิที่เคี่ยวเนื้อ 2 1/2ถ้วย คนผสมให้เข้ากัน ต้มจนเดือด ใส่มะเขือพวงต้มต่อให้สุก
  • หรี่ไฟ ใส่เนื้อวัวที่หั่นเตรียมไว้ ใบมะกรูด และใบโหระพา คนให้ส่วนผสมสุกเข้ากันดี ชิมให้ได้รสเผ็ดเค็มและหวานเล็กน้อย ตักใส่ชามตกแต่งด้วยพริกขี้หนูสวนและใบโหระพา

3. เนื้อมิยาซากิย่างกับโฮบะมิโซะ

เนื้อมิยาซากิย่างกับโฮบะมิโซะ  

เนื้อเซอร์ลอยน์ย่างกับโฮบะมิโซะ มิโซะที่ย่างบนใบโฮบะแห้งจนมีกลิ่นหอม เนื้อนี้จึงมีกลิ่นของใบโฮบะและมิโซะรสเค็มหอมที่แทรกอยู่ในเนื้อนุ่มๆ

ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)
  • เนื้อวัวมิยาซากิเซอร์ลอยน์ 160 กรัม
  • โฮบะมิโซะ (Hoba Miso) 100 กรัม
  • เห็ดหอมแห้ง 13 กรัม
  • โชยุ 2 กรัม
  • มิริน 5 กรัม
  • ต้นหอมญี่ปุ่นซอย 8 กรัม
  • ไพน์นัตอบสับ 3 กรัม
  • พริกบดญี่ปุ่น (Japanese Chili Paste) 0.5 กรัม
  • ใบโฮบะแห้ง 1 ใบ
  • หน่อไม้ฝรั่งและต้นหอมญี่ปุ่นซอยสำหรับเสิร์ฟ

วิธีทำ
  • แช่เห็ดหอมแห้งในน้ำจนนิ่ม ต้มกับน้ำดาชิจนนุ่ม หั่นเป็นชิ้นเล็ก ผสมเห็ดกับโฮบะมิโซะ โชยุ มิริน ต้นหอมญี่ปุ่น ไพน์นัต และพริกบดญี่ปุ่น คนให้เข้ากัน
  • วางใบโฮบะแห้งบนเตาสำหรับเสิร์ฟ วางเนื้อมิยาซากิ ราดซอสที่ผสมไว้ จุดไฟย่างจนเนื้อสุกปานกลางและซอสมีกลิ่นหอม เสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่งและต้นหอมญี่ปุ่นซอย

4. ต้มจิ๋วเนื้อ

ต้มจิ๋วเนื้อ

แกงน้ำใสรสชาติเผ็ดร้อนคล้ายต้มยำ มีรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม มีกลิ่นหอมจากใบโหระพาและใบกะเพรา

ส่วนผสม (สำหรับ 1-2 ที่)

  • เนื้อวัวสันใน 300 กรัม
  • มันเทศ 150 กรัม
  • น้ำเปล่า 1 ลิตร
  • หอมแดงซอย 8-9 หัว
  • ใบกะเพรา 1/4 ถ้วย
  • ใบโหระพา 1/4 ถ้วย
  • พริกขี้หนูสวน 4-5 เม็ด
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 2 หยิบมือ

วิธีทำ

หั่นเนื้อวัวและมันเทศเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดกลาง
ต้มน้ำให้เดือด ใส่เนื้อและเกลือ ต้มไฟอ่อนจนเนื้อสุกนุ่ม
ใส่มันเทศและหอมแดงลงต้มให้สุกนุ่ม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และพริกขี้หนูสวนบุบ ปิดไฟ ใส่ใบกะเพรา ใบโหระพา และน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ตักใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ

                                                            5. สตูเนื้อกับซอสโมเล่ 

สตูเนื้อกับซอสโมเล่

เนื้อน่องลายนำมาตุ๋นจนนุ่มเป็นสตูที่เตรียมไว้กินได้อร่อยทุกมื้อ สูตรนี้ใส่ซอสโมเล่สไตล์เม็กซิกันเพิ่มรสเข้มข้นให้กับสตู กินกับแป้งตอร์ติญาหรือโรตีก็อร่อยเข้ากัน

ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)
  • เนื้อวัวส่วนน่องลายหั่นชิ้นพอดีคำ 800 กรัม
  • หอมหัวใหญ่หั่นเสี้ยว 2 ถ้วย
  • กระเทียมบุบ 5 กลีบ
  • มะเขือเทศบดเข้มข้น (Tomato Paste) 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยดำเมล็ด 1 ช้อนชา
  • เกลือทะเล 1 ช้อนชา
  • น้ำ 2 ถ้วย
  • ใบเบย์ 2 ใบ
  • ออลสไปซ์ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอกสำหรับผัดเล็กน้อย
  • ซอสโมเลและพริกฮาลาเปโยดองสับหยาบปริมาณตามชอบ
  • แป้งตอร์ติญาและโรตีสำหรับเสิร์ฟปริมาณตามชอบ
  • ส่วนผสมซัลซาถั่วดำ
ถั่วดำต้มสุก 1 ถ้วย หอมหัวใหญ่สีม่วงหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1/4 ถ้วย พริกขี้หนูสับหยาบ 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ผักชีซอยเล็กน้อย

วิธีทำ
  • บดถั่วดำด้วยช้อนให้พอแหลก ผสมส่วนผสมทั้งหมดเคล้าเบาๆ ให้เข้ากัน เตรียมไว้
  • วิธีทำ
  • ผัดหอมหัวใหญ่กับน้ำมันมะกอกจนสุกใส ใส่กระเทียมลงผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่มะเขือเทศบดเข้มข้น ผัดจนมีสีน้ำตาลสวยและกลิ่นหอม ใส่เนื้อลงผัดจนเนื้อตึง ใส่พริกไทยดำเมล็ด เกลือ ใบเบย์ ออลสไปซ์ ใส่น้ำให้พอท่วม ต้มให้เดือด จากนั้นปิดฝาใช้ไฟอ่อน ต้มนาน 3-4 ชั่วโมงจนเนื้อสุกนุ่ม
  • ใส่ซอสโมเล่ประมาณ 3/4 -1 ถ้วย ใส่พริกฮาลาเปโยดองคนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมซัลซาถั่วดำ แป้งตอร์ติญา และโรตี

 6. เนื้อสันในวัวอบกับเกล็ดขนมปังเครื่องเทศ 

เนื้อสันในวัวอบกับเกล็ดขนมปังเครื่องเทศ

เนื้อวัวส่วนสันในนุ่มๆ หมักกับเครื่องเทศ อบพร้อมกับเกล็ดขนมปังผสมเครื่องเทศกรุบกรอบ กินกับมัสตาร์ดและผักสลัด 5 สี

ส่วนผสม (สำหรับ 4-6 ที่)

  • เนื้อวัวส่วนสันในน้ำหนัก 400 กรัม 1 เส้น
  • มัสตาร์ด 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสไลซ์ น้ำมันมะกอก เกลือทะเล และพริกไทยดำบดหยาบสำหรับหมักอย่างละเล็กน้อย
ส่วนผสมเกล็ดขนมปัง
  • เกล็ดขนมปัง 2 ถ้วย
  • ลูกผักชีคั่วบุบ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ยี่หร่าคั่วบุบ 1/2 ช้อนชา
  • พาร์สลีย์สับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือทะเลและพริกไทยดำบดอย่างละ 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสมสลัด
  • บีตรูต แครอต ผักโขมเบบี้ เมล็ดข้าวโพดหวาน มะเขือเทศเชอร์รี น้ำมันมะกอก และน้ำส้มสายชูหมักตามชอบ
วิธีทำ
  • หมักเนื้อกับน้ำมันมะกอก กระเทียม เกลือ และพริกไทยไว้ 1-2 ชั่วโมง
  • อบเนื้อที่อุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียสประมาณ 10 นาที ยกออก ทามัสตาร์ดให้ทั่วชิ้นเนื้อ
  • ผสมส่วนผสมเกล็ดขนมปังพอกให้ทั่วเนื้อ แล้วอบต่อที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส 10-15 นาทีจนเกล็ดขนมปังเหลืองกรอบ
  • พักเนื้อไว้ 10 นาที หั่นเป็นชิ้น เสิร์ฟพร้อมมัสตาร์ดและสลัดตามชอบ

7. แฮมเบิร์กอบชีส 


แฮมเบิร์กอบชีส

แฮมเบิร์กทำจากเนื้อบดผสมหมูบด เป็นกับข้าวที่ครอบครัวญี่ปุ่นนิยมทำ สูตรนี้ราดด้วยซอสทงคัตสึผสมกับซอสมะเขือเทศให้มีรสเปรี้ยวๆ โรยชีสแล้วอบจนชีสเยิ้ม รสชาติอร่อยเข้ากัน

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

  • เนื้อวัวบด 1/2 ถ้วย
  • เนื้อหมูบด 1/2 ถ้วย
  • หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1/4 ถ้วย
  • เกล็ดขนมปัง 2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
  • โชยุ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำดาชิ น้ำมันพืช ชีสเชดดาร์ขูด ชีสมอซซาเรลลาขูด และพาร์สลีย์สับอย่างละเล็กน้อย

ส่วนผสมซอส

  • หอมหัวใหญ่หั่นบาง 1/2 ถ้วย
  • เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ
  • เห็ดแชมปิญองหั่นบาง 1/3 ถ้วย
  • ซอสมะเขือเทศเคตชัพ 1/2 ถ้วย
  • มะเขือเทศกระป๋องสับ 1 ถ้วย
  • ซอสทงคัตสึ 1/2 ถ้วย
  • น้ำดาชิ 3-4 ช้อนโต๊ะ
  • โชยุ 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • มิริน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
  • ผสมเนื้อวัว เนื้อหมู หอมหัวใหญ่ เกล็ดขนมปัง แป้งสาลี และโชยุ ใช้มือคลุกจนเข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลมแบน พักไว้
  • ผัดหอมหัวใหญ่กับเนยจนสุกนุ่ม ใส่มะเขือเทศสับ ซอสทงคัตสึ ซอสมะเขือเทศเคตชัพ เติมน้ำดาชิ โชยุ น้ำตาลทรายแดง และมิริน พอเดือดใส่เห็ดแชมปิญอง ผัดให้เห็ดสุกและงวด ชิมรส พักไว้
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยพอร้อน ใส่เนื้อลงทอดให้เหลืองมีกลิ่นหอม เติมน้ำดาชิเล็กน้อย ปิดฝาให้ระอุและเนื้อสุก
  • ตักซอสราดบนเนื้อ ใส่ชีสทั้ง 2 ชนิด ปิดฝาอบไว้สักครู่จนชีสละลาย
  • ตักใส่จาน โรยพาร์สลีย์สับ เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งอบตามชอบ

8. ยำเนื้อมะเขือเปราะใส่กะปิ 

ยำเนื้อมะเขือเปราะใส่กะปิ

เมนูนี้ไม่ได้ทำมานานมาก เป็นยำแบบผสมผสานภาคกลางกับภาคใต้ เราคิดผสมเอง แต่ก็แน่ใจว่าน่าจะมีคนอื่นทำเหมือนๆ กัน เป็นยำที่รสแปลกแต่อร่อย

ส่วนผสม
  • เนื้อสันอย่างดีหรือหมูสันในหั่นชิ้นบางๆ พอดีคำ ประมาณ 1 ถ้วย
  • มะเขือเปราะ 5-6 ผล
  • หอมแดงซอย 3-4 หัว
  • กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
  • ตะลิงปลิงหรือระกำเปรี้ยวซอยปริมาณพอสมควร
  • พริกขี้หนูสวนซอย
  • พริกป่น
  • ต้นหอม ผักชี โหระพา ซอย
  • หัวกะทิข้นๆ นิดหน่อย
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย
  • มะนาว

วิธีทำ
  • ตั้งกระทะ เอากะปิลงไปยี กะปิจะหอมและติดกระทะ ใส่หัวกะทิลงไปนิดหน่อยแค่พอละลายกะปิ ตั้งไฟให้กะทิเดือด 
  • ใส่เนื้อลงไปผัดแค่กึ่งสุก ถ้าใช้หมูก็ผัดให้พอสุก
  • ผ่าครึ่งมะเขือและซอยจนหมด
  • คลุกมะเขือกับตะลิงปลิงหรือระกำ เตรียมไว้
  • ตอนนี้เนื้อที่ผัดไว้จะหายร้อนแล้ว หรือถ้าอุ่นหน่อยๆ ก็ได้ คลุกกับมะเขือที่เตรียมไว้และหอมแดงซอย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ใส่พริกให้เผ็ดๆ 
  • ชิมดูก่อนแล้วค่อยเติมมะนาว 
  • ตักใส่จาน โรยต้นหอม ผักชี โหระพา และหัวกะทิข้นๆ

 9. ตุ๋นเนื้อเอ็นแก้วใส่โยเกิร์ต  


ตุ๋นเนื้อเอ็นแก้วใส่โยเกิร์ต

ตุ๋นเนื้อวันนี้จะใส่โยเกิร์ตลงไปด้วย อร่อยดีค่ะ อารมณ์คล้ายๆ ใส่หางกะทิแต่ได้รสชาติมากกว่า ถ้าใส่หอมเจียวลงไปด้วยก็จะคล้ายซุปหางวัว วันนี้เราไม่ได้ใส่เพราะไม่อยากกินอะไรที่มันๆ แต่ถ้าใส่จะหอมกรุ่นและเพิ่มรสชาติไปอีกแบบ

ส่วนผสม

  • เนื้อน่องลายหั่นขวางเส้น 700 กรัม 
  • หอมหัวใหญ่หั่นตามยาว 1 หัว
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 แก้วบรรจุ
  • น้ำปลา 1/4 ถ้วย + +(ตามชอบ)
  • ดอกเกลือ 2 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก  2-3 ช้อนโต๊ะ (ขึ้นอยู่กับความเปรี้ยว)
  • น้ำตาลมะพร้าว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้ซอย 2 ต้น 
  • หอมแดงซอย 4 หัว 
  • รากผักชีซอย 2 ราก 
  • กระเทียมไทย 10-15 กลีบ
  • ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
  • ต้นหอม ผักชี พริกขี้หนูสวน พริกไทย หอมเจียวกรอบ (ไม่ใส่ก็ได้)
  • น้ำซุปหรือน้ำเปล่าพอท่วมเนื้อ (กะให้งวดแล้วกำลังดีมีพอซดได้)

วิธีทำเครื่องตุ๋น

  • ตำตะไคร้และรากผักชีให้ละเอียด ใส่กระเทียมกับหอมแดงลงไปตำให้เข้ากัน 
  • วิธีทำเนื้อตุ๋น
  • นำเนื้อน่องลายไปนาบกับกระทะเทฟลอนให้พอหอมแต่ข้างในยังดิบอยู่ การนาบจะช่วยกระชับผิวเนื้อ ทำให้รักษารสชาติความอร่อยของเนื้อและเพิ่มความหอม
  • เทน้ำใส่หม้อ ใส่เนื้อลงไปต้มตั้งแต่น้ำยังเย็นอยู่ พอน้ำเดือดเต็มที่ก็ช้อนฟองออกให้หมด 
  • ละลายเครื่องตุ๋นที่ตำไว้ใส่ลงไป ต้มจนน้ำเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก
  • ลดไฟเป็นไฟอ่อน เคี่ยวให้เนื้อเปื่อยครึ่งทาง ใส่หอมหัวใหญ่
  • พอเนื้อเปื่อยได้ที่ใส่โยเกิร์ต ใส่มากน้อยได้ตามชอบ ตั้งไฟให้เดือดวูบเดียว 
  • ปิดไฟ ใส่ใบมะกรูด เติมน้ำมะนาว ชิมรส น่าจะขาดรสเค็มและเปรี้ยวอีกนิดหน่อย
  • ปรุงเนื้อตุ๋นทีละชาม ทุบพริกขี้หนูสวน 3-4 เม็ด น้ำปลานิดหน่อย บีบมะนาวบีบใส่ชามลงไปก่อนให้หอม ตักเนื้อตุ๋นร้อนๆ ราดลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชี ถ้าชอบหอมเจียวก็ใส่ลงไปด้วย ที่ขาดไม่ได้เลยคือพริกไทยแท้ของครูมาโนชฉะเชิงเทรา

10. เนื้อตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่น 

เนื้อตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่น


เนื้อวัวนำมาตุ๋นกับเครื่องปรุงรสญี่ปุ่นอย่างโชยุจนเนื้อนุ่ม ได้ทั้งกลิ่นหอม รสเค็ม และอูมามิ เติมซอสทงคัตสึเพื่อให้ได้รสเปรี้ยวหวานนิดๆ ได้รสชาติอร่อยสไตล์ญี่ปุ่น

ส่วนผสม (สำหรับ 4-6 ที่)

  • เนื้อวัวส่วนขาหน้าหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าใหญ่  1  กิโลกรัม
  • โชยุ 5  ช้อนโต๊ะ
  • มิริน 1 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์  3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอก 1/4  ถ้วย
  • กระเทียมบุบ  4-5  กลีบ
  • หอมหัวใหญ่หั่นชิ้นใหญ่  2 หัว
  • บรั่นดี 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • ซอสทงคัตสึ  1/2 ถ้วย
  • มันฝรั่งหั่นชิ้นใหญ่  2 หัว
  • แครอตหั่นชิ้นใหญ่  2 หัว
  • ต้นหอมญี่ปุ่นหั่นเฉียง 1  ต้น
  • เกลือทะเลเล็กน้อย
  • ขนมปังสำหรับเสิร์ฟตามชอบ

วิธีทำ
  • หมักเนื้อกับโชยุ 3 ช้อนโต๊ะ มิริน และเกลือ พักไว้ 3-4 ชั่วโมง
  • เคล้าเนื้อกับแป้งสาลีให้ทั่ว ทอดเนื้อในกระทะร้อนจัดจนเป็นสีน้ำตาล ตักขึ้น
  • ใส่กระเทียมลงผัดในกระทะเดิม ใส่หอมหัวใหญ่ ผัดจนสลด ใส่เนื้อวัว ผัดสักครู่ เร่งไฟแรง ใส่บรั่นดี โชยุที่เหลือ และน้ำตาล เติมน้ำเดือดให้พอท่วมเนื้อ ใส่ซอสทงคัตสึ คนให้เข้ากัน ต้มไฟอ่อน 1- 1 1/2 ชั่วโมง จนเนื้อนุ่ม
  • ใส่แครอต มันฝรั่ง และต้นหอมญี่ปุ่น ต้มต่ออีก 1/2 ชั่วโมงจนสุกทั้งหมด (ถ้าน้ำน้อยเติมน้ำร้อนเพิ่ม)ชิมและปรุงรสเพิ่มตามชอบ ตักเสิร์ฟพร้อมกับขนมปัง

เครื่องสไลด์เนื้อ จาก SGE เครื่องหั่นเนื้อที่ผลิตจากสแตนเลส 304 ปรับความหนา-บาง ได้ละเอียด เครื่องสไลด์มี กำลังผลิตสูง ด้วยใบมีดคมกริบ เนื้อทุกชิ้นที่ได้จากการหั่นจะมีหน้าตาสวยงาม น่ารับประทาน ขนาดเท่ากันทุกชิ้นแน่นนอน เหมาะมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการ เครื่องสไลด์เนื้อ เป็นชิ้นบางด้วยระยะเวลาสั้นๆ ราคาเพียงหลักพันต้นๆ แต่ได้เนื้อปริมาณมาก รับรองประสิทธิภาพเกินราคา


Cr.ทีมงาน Gourmet & Cuisine