springgreenのブログ

タイ料理のレシピ รวมสูตรอาหารไทย

แจกสูตร เมนูของหวาน ทำตามง่ายๆ ด้วยไมโครเวฟ


สำหรับใครอยากทำขนมเก่งๆ แต่ที่บ้านไม่มีเตาอบ จะหาซื้อทีเครื่องเตาอบก็แพงเหลือเกิน วันนี้ใครกำลังเจอปัญหานี้อยู่ ขอให้มารวมตัวกันตรงนี้เลยค่ะ วันนี้จะมาแจก เมนูของหวาน 3 เมนู ทำง่าย ไม่ง้อเตาอบ เพียงแค่มีไมโครเคฟอันเดียวก็พอแล้วค่ะ แต่ละเมนูทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน มือใหม่หัดเข้าครัวที่สกิลการทำขนมยังไม่สูงก็สามารถทำได้ ไม่ต้องง้อเตาอบก็ทำขนมอร่อยๆ ได้แน่นอนค่ะ จะมีอะไรบ้างตามไปดูกันเลย

เตาอบ VS เตาไมโครเวฟ ต่างกันยังไง? 

หลายคนสงสัยว่า แล้วทั้ง 2 อย่างนี้สามารถใช้แทนกันได้ไหม เพราะปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเตาไมโครเวฟและเตาอบนั้นเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ในห้องครัว เรียกได้ว่าต้องมีกันแทบทุกครัวเรือน ซึ่งบางคนนั้นก็มีทั้ง 2 เครื่องเลยแต่บางคนก็มีงบประมาณที่จำกัดก็อาจจะมีเพียงแค่เครื่องเดียว จึงอาจเกิดคำถามก่อนซื้อได้ว่าเตาอบและเตาไมโครเวฟต่างกันอย่างไร วันนี้มีคำตอบค่ะ


ไมโครเวฟ คือเครื่องที่ใช้คลื่นไมโครเวฟในการทำให้โมเลกุลในอาหารสั่นจนเกิดความร้อน โดยในปัจจุบันนั้นมีหลายแบรนด์ที่ออกแบบไมโครเวฟมาให้มีดีไซน์ดูดี ไฮเทคและใช้งานง่าย เพียงแค่นำภาชนะที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ใส่อาหารแล้วกดปุ่ม เพียงไม่กี่นาทีอาหารของคุณก็พร้อมรับประทาน จึงเรียกได้ว่าเป็นไอเทมที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คอนโดแบบเร่งรีบต้องการความสะดวกและรวดเร็ว ข้อดีของไมโครเวฟ คือใช้งานง่าย มีฟังก์ชันการใช้งานที่ชัดเจนและหลากหลาย ประหยัดเวลา ปลอดภัยและไม่กินไฟ


🔴 ข้อเสีย ของไมโครเวฟ คืออาหารที่ได้จากการอุ่นไม่โครเวฟนั้นจะดูดซับน้ำมากและแห้ง เช่น ขนมปังหากอุ่นในไมโครเวฟ ขนมปังนั้นจะแห้งและแข็งเกินไป เราก็อาจจะต้องใส่น้ำเข้าไปวางข้างๆ เพื่อให้ขนมปังที่อุ่นออกมานั้นไม่แห้งและนุ่มมากยิ่งขึ้น รวมถึงความร้อนอาจไม่พอสำหรับการทำอาหารบางอย่าง 


✨ เตาอบไฟฟ้า เตาอบเป็นไอเทมที่สามารถใช้ประกอบอาหารต่างๆ และอุ่นร้อนได้เช่นกัน เป็นไอเทมที่ใช้งานง่ายในห้องคอนโดเพราะเจ้าเครื่องนี้มีความปลอดภัยและกลิ่นที่ออกมาไม่แรงเท่าเครื่องมือให้ความร้อนอื่นๆ เช่น เตาไฟฟ้า โดยที่เตาอบจะใช้ความร้อนจากไฟฟ้า โดยต้องตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมกับอาหารของเราก่อนแล้วจึงทำการอุ่นหรือประกอบอาหารได้ 


แต่ถ้าหากใครไม่อยากอยากซื้อ ก็สามารถใช้ไมโครเวฟแทนได้นะครับ ข้อดีของ เตาอบไฟฟ้า คือสามารถเลือกอุณหภูมิในการประกอบอาหารได้ชัดเจน อาหารยังคงรสชาติดีและหน้าตาน่ารับประทานเหมือนเดิม บางรุ่นใช้งานง่ายในการทำอาหาร หรือเมนูต่างๆ เพียงแค่ตั้งค่าความร้อนและเวลา คุณสามารถดูรีวิวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เตาอบไฟฟ้า  https://www.sgethai.com/baking-oven จะมีข้อมูลเตาอบหลากหลายรุ่นเลย 


🔴 ข้อเสียของ เตาอบไฟฟ้า คืออาจจะใช้เวลานานในการอุ่นและทำอาหาร ต้องคอยเช็คอาหารว่าอาหารนั้นสุกหรือไหม้ไหม ภาชนะในการใช้สำหรับอบหายาก และอาจกินไฟ รวมถึงราคาของเครื่องอบไฟฟ้า ที่แพงกว่าไมโครเวฟ

ชีสพายบลูเบอรี่ (Blueberry Cheese Pie)


ชีสพายบลูเบอรี่ (Blueberry Cheese Pie) บลูเบอรี่ชีสพาย สูตรไม่ใช้ครีมชีส ต้นทุนต่ำ เป็นสูตรที่ มนุษย์ลุงคาเฟ่ Manud Lung Cafe ดัดแปลงให้ได้รสชาติคล้ายๆ กับชีสพาย เหมาะสำหรับคนที่หาซื้อครีมชีสไม่ได้ หรือว่าไม่อยากใช้ครีมชีสเนื่องจากราคาสูง สูตรนี้จะเป็นแบบไม่อบ ไม่ใช้เจลาติน

ส่วนผสม


ส่วนฐาน
  • แครกเกอร์หรือบิสกิต 160 กรัม
  • เนยละลาย 80 กรัม
ส่วนครีม
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 200 กรัม
  • นมข้นจืด 100 กรัม
  • นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่แดง 1 ฟอง(ไม่ใส่ก็ได้)
  • แป้งข้าวโพด 20 กรัม (ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ)
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้)
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำ
  1. นำแครกเกอร์มาบดให้ละเอียด พร้อมกับละลายเนยสดลงไปผสมกับน้ำตาลและแครกเกอร์
  2. จากนั้นทำส่วนผสมที่ได้ใส่ภาชนะรองด้วยกระดาษไข โดยอัดแครกเกอร์กดให้แน่น จากนั้นเข้าไมโครเวฟด้วยความร้อน 800 วัตต์ 2 นาที
  3. จากนั้นนำมาพักไว้ และนำครีมชีสออกจากตู้เย็น พักไว้ 30 นาที เพื่อให้ครีมชีสนุ่ม จากนั้นจึงตีครีสชีส ผสมกับน้ำตาลโดยค่อยๆเติมน้ำตาลเรื่อยๆ จากนั้นจึงเติมเกลือ นม แล้วตีอีกครั้งจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
  4. เตรียมภาชนะแยกอีกหนึ่งใบ จากนั้นตอกไข่ใส่ชามอีกใบ ใส่มะนาว ตีให้เข้ากัน แล้วนำไปผสมกับส่วมผสมของครีมชีส คนผสมให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน
  5. นำภาชนะที่ผสมเสร็จเรียบร้อยเข้าไมโคเวฟ ด้วยความร้อน 800 วัตต์ 2 นาที จากนั้นนำมาคนให้เข้ากันจนเนื้อสัมผัสเนียน
  6. เทส่วนผสมลงบนฐานแครกเกอร์ จากนั้นนำเข้าตู้เย็นประมาณ 20-40 นาที จนเนื้อชีสพายเริ่มเซ็ตตัว
  7. นำชีสพายที่เซ็ตตัวแล้ว ออกจากตู้เย็นราด บลูเบอรี่ฟิลลิ่ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

​บราวนี่ผงโกโก้ (Cocoa Brownie)

เมนูของหวาน สูตรนี้มาจากเพจ Wongnai ซึ่งเป็นสูตรบราวนี่ที่ทำง่ายมากๆ ใช้ชามหรือหม้อผสมใบเดียว ไม่ต้องตุ๋นช็อคโกแล็ตแท่ง ไม่ต้องร่อนแป้ง ใช้เพียงแค่ผงโกโก้ ก็สามารถแปลงร่างเป็นบราวนี่ที่อร่อย เนื้อในยังนุ่มเยิ้มเป็น fudgy ผิวหน้าหน้ากรอบกำลังดี ที่สำคัญบราวนี่สูตรนี้ไม่ต้องพึ่งพาสารเสริมคุณภาพใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับคนที่ไม่มีเตาอบก็สามารถทำได้ หรือใครจะทำขายก็ได้เช่นกันนะครับ


วัตถุดิบ

  • เนยจืด หรือเนยเค็ม 150 กรัม
  • Dark Chocolate 200 กรัม
  • น้ำตาลทราย 180 กรัม
  • แป้งเค้ก 150 กรัม
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • ผงโกโก้ 15 กรัม

ขั้นตอนการทำ

  1. ให้ละลายเนยเค็ม 150 กรัมด้วย Microwave สัก 30 วินาที
  2. จากนั้นเอาดาร์คช็อคโกแลต 200 กรัม หั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ (ในกรณีที่เป็นช็อคโกแลตบาร์) ไปละลายในไมโครเวฟ ค่อยๆละลายทีละ 30-45 วินาที
  3. หลังจากนั้น ให้นำเอามาผสมกับไข่ไก่ น้ำตา ใส่โกโก้ และแป้งเค้กแล้วคนๆๆๆ ให้เข้ากัน
  4. ทาเนยบางบนกระดาษไข ที่ปูรองภาชนะ เทส่วนผสมไปซัก1/3ของภาชนะ โรยแอลมอนผ่าซีกใส่เตา Microwave 800 วัตต์ 4 นาที
  5. จากนั้นให้คอยสังเกตุพอเริ่มขึ้นฟู ก็เอาออกมาดูซักหน่อย แล้วใส่ไมโครเวฟต่อซัก2-3นาที ถ้าอยากให้เนื้อข้างในฉ่ำๆ ก็ต่อซัก2นาที
  6. พอครบเวลาก็เอาออกมาพักให้เย็นครับแล้วก็หั่นขอบๆเพื่อความสวยงาม (เพราะเนื้อขอบด้านนอกมันจะดูหยาบๆไปนิดนึง หรือใครไม่อยากหั่นก็ได้นะคะ)
  7. แค่นี้ก็เรียบร้อย พร้อมทานแล้วค่ะ เนื้อในฉ่ำๆ พร้อมเสริฟ น้ำลายไหลมาก
โอริโอ้ชีสพาย (Oreo Cheese Cake)

วัตถุดิบโอรีโอชีสเค้ก Oreo Cheese Cake (No Bake)


สำหรับ 8 ที่ ใช้ เวลา 30 นาที

  • โอรีโอคุกกี้(บด) 30 ชิ้น
  • เนยจืดละลาย 5 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ เล็กน้อย
  • ครีมชีส 200 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 4 ช้อนโต๊ะ
  • วิปครีม 300 กรัม
  • โอรีโอ 6 ชิ้น

อุปกรณ์ที่ใช้


ชามผสม , พิมพ์วงกลม


วิธีทำโอรีโอชีสเค้ก Oreo Cheese Cake (No Bake)

  1. นำโอรีโอที่บดแล้ว ผสมเนยจืดที่ละลายแล้ว ใส่เกลือ แล้วกรุในพิมพ์เพื่อเป็นฐาน แช่ช่องแข็งประมาณ 15 นาที
  2. ตีวิปครีม ใส่น้ำตาลไอซิ่งจนขึ้นฟู
  3. ตีครีมชีสอีกชาม แล้วนำไปผสมในโถวิปครีม
  4. หักโอรีโอลงไปผสมในครีมชีส จากนั้นเทลงบนฐานแช่ต่อ 20-30 นาที


สูตรจากช่อง FoodTravelTVChannel